ยา ไก่ชน ตลาดไก่ชน ทั้งในและต่างประเทศ
ยา ไก่ชน ตลาดไก่ชน ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันตลาดไก่ชนทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการไก่เก่ง ที่มีคุณภาพจำนวนมาก สมัยก่อนพ่อค้าไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อไก่เข้าออร์เดอร์ได้ที่ไหน ก็ทำให้เสียโอกาส ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าต้องการไก่ชนเกรดเอ จำนวน 50 ตัว อาจจะต้องลำบากไปหาไก่เป็นร้อยๆ บ้าน ก็คงไม่ไหวการซื้อขายก็ลำบาก เพราะกว่าจะหาไก่คุณภาพได้ 50 ตัว ต้องตระเวนไปเสาะหากันหลายวัน พ่อค้าที่มาซื้อก็เหนื่อย ไก่ที่ได้บางส่วนก็บอบช้ำ ต่อมาพ่อค้าจึงไปหาซื้อตามฟาร์มไก่ชนเพราะสะดวกกว่า ทำให้ไก่ชาวบ้านที่ลักษณะดีๆ ถูกมองข้ามไป ยาไก่ชนราคาส่ง

ชมรมไก่ชน นักเพาะเลี้ยงไก่ชน เลี้ยงผลิตไก่เกรดเอ ยา ไก่ชน
เมื่อเป็นเช่นนี้นักเพาะเลี้ยงไก่ชน จึงได้มีการจัดตั้งชมรมเกี่ยวกับไก่ชนขึ้นมาทั่วประเทศ โดยมีการจัดการเหมือนฟาร์ม คือ นำไก่จากชาวบ้านหรือจากแหล่งต่างๆ มารวมกันไว้ที่เดียว ตลาดซื้อขายไก่ชนเกรดA ให้พ่อค้าเข้ามาเลือกซื้อได้ทีเดียว 50 ตัวได้เลย พ่อค้าก็จะสะดวก ไม่เสียเวลาและได้ไก่ดีๆ ไปทีเดียว หลายสิบตัววิธีดังกล่าวจะทำให้ชาวบ้าน และสมาชิกชมรมขายไก่ได้ แต่ไก่ที่จะขายได้จะต้องเป็นไก่ที่มีมาตรฐาน มีเกรด ทางชมรมจึงจำเป็นจะต้องเลี้ยงผลิตไก่เกรดเอขึ้นมา โดยแบ่งเป็นสายพันธุ์กันไปให้ผลิต ผลิตได้แล้วก็เอามาเข้าค่ายหัดฝึกซ้อมตี ชมรมจะต้องมีเทรนเนอร์ไว้คอยช่วยเหลือการฝึกซ้อมไก่เพื่อส่งออก ส่งขายไม่เหมือนการฝึกซ้อมไก่เพื่อออกชน การฝึกซ้อมไก่เพื่อขายหรือส่งออก เทรนเนอร์หรือมือเลี้ยงจะต้องนำไก่มาอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาดทั้งตัว เรียกว่าอาบน้ำสระตัวด้วยยาสระผม หรือสระขนประมาณ 2 ครั้ง แล้วตากแดดให้ไก่แห้งต่อจากนั้นก็นำไก่ไปถ่ายพยาธิและทำวัคซีน นิวคาสเซิล หลอดลมอักเสบ และอหิวาต์ พอครบได้ที่แล้วก็นำไก่ฝึกออกกำลังวิ่งสุ่ม วิ่งล่อ ว่ายน้ำ โยนเบาะ หรือวิดพื้นกราดน้ำเปล่า กราดแดด วันละครั้งใน 2สัปดาห์แรก และวันละ 2 ครั้งใน 2 สัปดาห์หลัง เมื่อฟิตซ้อมได้ครบเครื่องแล้วก็นำไก่ซ้อมคู่ใสนวมครั้งละ 1 อันๆ ละ 10-15 นาทีอย่าให้ไก่ซ้ำมาก หลังปล้ำซ้อมก็เลี้ยงดูรักษาจนหายบาดเจ็บ 10 วัน ปล้ำครั้งละ 1 อันๆละ 15-20 นาที ทำเช่นนี้ประมาณ 4-5 ครั้งแล้วคัดเกรด
หลังจากนั้นติดต่อพ่อค้ามารับซื้อได้ ไก่เกรดอย่างนี้มาฝึกซ้อมมาดีแล้วจะขายได้ตัวละไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทจะหักไว้ให้ฝ่ายดูแลฝึกซ้อม 20% ก็จะจำหน่ายไก่ออกได้ ส่วนไก่ที่ไม่มีมาตรฐาน เช่น น้ำหนักไม่ถึง 3.2 กิโลกรัมหรือเกิน 3.5 กิโลกรัม หรือไม่เก่งไม่มีเชิง ก็ตอนฝังหัวส่งตลาดไก่ตอนต่อไป
ยา ไก่ชน ไก่มาตรฐานเกรด A ที่ตลาดต้องการ
ไก่มาตรฐานเกรด A ที่ตลาดในประเทศและต่างประเทศต้องการ ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- รูปร่างดี สีสันสวยงาม น้ำหนัก 3.2-3.5 กิโลกรัม
- ถ้าเป็นสีเหลืองหางขาวสีประดู่หางดำจะมีราคาดีกว่า
- เป็นไก่เชิงชน เชิงมัดปีก เชิงแข็งเปล่าไล่ตีคือขี่ กอด ล็อก ทับ มัด สาด ลุยตี
- เป็นไก่รู้จักหลบหลีก ปากเร็ว ตีนเร็ว ตีแม่นใช้ตอตี
- เป็นไก่บินดี บินเร็ว จังหวะดี

การซื้อขายไก่มาตรฐานเกรด A การคัดเกรดไก่ รับประกันคุณภาพ
การซื้อขายในลักษณะนี้ชมรมจะต้องยึดมาตรฐานหลัก อย่าเอาแต่ได้เมื่อขายดีการคัดเกรดไก่ จะต้องอยู่ในความดูแลของประธานชมรม หรือผู้รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด ระวังอย่าให้เกิดการยัดไส้ปลอมแปลง จะทำให้เสียลูกค้าสำหรับผู้ซื้อ ถ้าเขาได้ไก่มาตรฐานไปแล้วเขาก็จะเชื่อใจ ต่อไปก็อาจไม่ต้องทดสอบ แค่ประกันคุณภาพก็พอแล้ว การซื้อขายก็จะยั่งยืน ถ้าชมรมใดทำได้ในขั้นแรก ให้ชมรมติดต่อไปยังสมาคมส่งเสริมไก่ชนไทย ซึ่งจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยส่งเสริมการส่งออกไก่ชนมาตรฐานเกรดเอ หรือถ้าประธานชมรมหรือคณะกรรมการบริหารมีพาวเวอร์สามารถจะติดต่อพ่อค้าส่งออกได้เองหรือติดต่อลูกค้าจากต่างประเทศได้เองก็จะดีมากขึ้น จะได้ราคาตัวละ 8,000-10,000 บาทดังนั้นถ้าจะให้ขายไก่ได้ราคา จึงจำเป็นจะต้องตั้งชมรมขึ้น ประเทศที่เขาซื้อไก่ซนไทยเรามาก คือ อินโดนีเซีย บรูไน โอมาน จีน ฟิลิปปินส์ มาเลย์ ถ้าชมรมใดสามารถติดต่อได้โดยตรง จากพ่อค้าจากประเทศเหล่านี้ได้ ก็คงจะได้ราคาสูงขึ้นกว่าขายให้พ่อค้าภายในประเทศไทยตลาดไก่ไทยในประเทศมีโอกาสตันหรือไม่ จากข้อมูลต่างๆ ในขณะนี้ไม่มีทางตันแน่นอน ถ้าเราสามารถผลิตไก่เกรดเอ ส่งได้ ที่สำคัญเราผลิตไก่เกรดเอ กันยังไม่ได้เท่าที่ควร ไก่ที่ส่งไปต่างประเทศทุกตัวจะไปตายหมด เพราะต่างประเทศเขาชนไก่แบบสวมเดือย ติดมีดหรือเสี้ยมปล่อยเดือยไก่จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวและจะต้องสั่งซื้อจากเราต่อไป และขณะนี้ทราบว่าประเทศเขาก็กำลังนิยมไก่ชนกันมาก ประเทศเขาเงินดีกว่าเรามาก ซื้อไก่เราเหมือนราคาถูก และเขาไม่นิยมเพาะเลี้ยง เพราะประเทศภูเขาไฟระเบิดจะมีลาวาแร่ธาตุอันตรายปนเปื้อนในดิน และน้ำดิน-น้ำธรรมชาติเป็นอันตรายต่อไก่ ทำให้เลี้ยงไก่ยาก ตรงข้ามกับบ้านเรา ดิน-น้ำบริบูรณ์ไม่มีอันตรายใดๆ เลี้ยงไก่เจริญเติบเติบโตได้ดี และแข็งแรง ประกอบไก่ไทยเราเป็นไก่เชิงโดยกำเนิดและขนาดมาตรฐาน ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไปเรียกพิมพ์นิยม เป็นที่ต้องการและเป็นที่นิยมของต่างประเทศ อีกอย่าง เทศบัญญัติและปศุสัตว์เขาเข้มงวดเรื่องโรคระบาด ถ้าไก่เป็นโรคระบาดเขาจะสั่งทำลายหมด เจ้าของฟาร์มจะขาดทุน จึงไม่กล้าเสี่ยง แต่ประเทศไทยเราปศุสัตว์และเทศบัญญัติไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไร เราเลี้ยงได้สบาย การผลิตไก่ส่งออกสู่ตลาดจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา
การเลี้ยงไก่ชนส่งออก ยา ไก่ชน
ไก่ชนไทย มีคุณสมบัติเข้ามาตรฐานไก่สากลหรือไก่โลก หรือเรียกว่าเป็นพิมพ์นิยมตามภาษาพระเครื่องที่ว่าไก่ชนไทยเป็นไก่มาตรฐานโลกคือ
- 1.มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่เขาต้องการ คือระหว่าง 3.2-3.5 กิโลกรัม (ไก่พม่าไม่ถึง 3 กก. ไก่ไซง่อนเกิน 3.5 กก.)
- มีเชิงนิยมคือเชิงคุมบน (กอดล็อก) เชิงเท้าบ่า (เท้าปีก เท้าหลัก เท้ากระปุก) เชิงมัดปีก (มัดโคน มัดกลาง มัดปลายปีก)
- ตีเร็ว ตีแม่น ใช้ตอเดือยแทงเก่งหรือแทงจัด
- อดทนต่อฟ้าดินอากาศ โรค และสิ่งแวด
- สีสวย มีเสน่ห์ มีสกุล ไก่อื่นๆ เกรงกลัว
จากคุณสมบัติพิเศษเข้ามาตรฐานทั้งข้อนี้ ทำให้ไก่ชนไทยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก บางประเทศเข้ามาซื้อเรามากแต่ละปีเราส่งไก่ชน ออกต่างประเทศหลายร้อยล้านบาท แต่ตัวเลขและสถิติไม่แสดงชัด เพราะพ่อค้ากลัวเรื่องภาษีอากรกัน จึงไม่มีใครแจ้งตัวเลขที่แท้จริง แต่ส่งออกกันมา 40 กว่าปีแล้ว โดยเฉพาะแถบๆ หนองจอก มีนบุรี จนได้ชื่อว่าเมกกะไก่ชนคือเขาจะมาหาซื้อไก่ชนกันแถวๆ หนองจอกมีนบุรี ก็เป็นโชคของผู้ส่งออกไปที่ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐ แต่หากกระทรวงพาณิชย์มาเป็นธุระส่งออกให้เหมือนสินค้าเกษตรอื่นๆ ไก่ชนคงจะมีราคาดีกว่านี้มากปกติพ่อค้าภายในซื้อไก่จากชาวบ้านแค่ตัวละ 4,000-5,000 บาท ไก่คัดเกรดแล้ว แต่เขาไปส่งออกตัวละ 10,000-15,000 บาท ไก่หนุ่มลักษณะดีรับประกันเชิงนิยมไม่ต้องปล้ำซ้อมเลยต่างประเทศซื้อตัวละ 10,000 บาท ไก่ที่คัดเกรดเอ รับประกันคุณภาพตรงตามสเปค 100 เปอร์เซ็นต์ตัวละ 50,000-100,000 บาท (ห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท) ก็อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าไก่ซนไทย มีการส่งออกสู่ต่างประเทศมาประมาณ 40 ปีแล้วโดยพ่อค้า แต่รัฐบาลไม่สนใจ

การส่งออกไก่ชนเกรดเอ หรือไก่มาตรฐานของประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน ซาอุดิอาระเบีย โอมาน อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา จีน อินเดียปากีสถาน เวียดนาม และประเทศแถวอเมริกาตอนใต้ และอื่นๆ อีกหลายประเทศก็อยากจะบอกแจ้งให้คนที่สนใจจะเลี้ยงไก่ส่งออกเกรดเอได้รับทราบ ไก่ที่ส่งออกเขานิยมไก่เชิงตราด เชิงพนัส บางคล้า หนองจอก มีนบุรี หรือไก่ชน 2 หน้า 2 คอ 2 ปีก กัดบ่า ไก่ลง ไก่ตัว ไก่ลายซักลีบ ไม่นิยมยิ่งไก่ช้าๆ หนักประเภทโป้งเดียวชนะรอไปเดี๋ยวเถอะน่าเขาไม่เอาเลย ไก่เวียดนามเขาไม่ชอบ ไก่พม่า ใหญ่ๆ ก็พอได้บ้าง
การเพาะเลี้ยงไก่ส่งออกก็ต้องหาพ่อแม่พันธุ์เชิงชน 2 หน้า 2 คอ 2 ปีก กัดป่าที่แม่พ่อลงเหล่าเอามาเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เขาจะนิยมไก่คล่องตัว ขาไม่ตาย ขาไม่อ่อน นั่นคือต้องเลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติ ไก่ขังกรงเลี้ยงแบบฟาร์มเขาจะไม่ค่อยเอา เพราะขาตาย ขาอ่อน ไม่แข็งแรง ไม่คล่องตัว การเพาะเลี้ยงก็ต้องใช้แบบธรรมชาติจนไก่โตได้อายุ 8-9 เดือน ก่อนส่งให้ติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ และให้กักทำวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะโรคนิวคาสเซิล โรคหวัดนก โรคขี้ขาว เขาควบคุมเข้มมาก มีหลายแห่งมักจะไม่ได้ทำวัคซีนโรคขี้ขาว โรคหวัด พอเอาไปตรวจแล้วปรากฏว่า ไม่ผ่าน ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาส
อย่างไรก็ตามการเตรียมการส่งออก นอกจากจะทำวัคซีนให้ครบแล้ว ต้องมีการคัดเลือกฝึกซ้อมปล้ำ อย่างน้อยมี 5-6 อันเต็ม บางทีต้องไม่ต่ำกว่า 7-8 อัน ก็มี อุปกรณ์ส่งออก เขาใช้กล่องไม้บรรจุล็อกละ 1 ตัว มีที่ให้น้ำ ให้ข้าวด้วยสำหรับไก่ที่ต้องเดินทางไกลเกิน 1 วัน พื้นกล่องให้รองด้วยพรมหรือปูหญ้าแผ่น ที่สามารถดูดซึมอุจจาระไก่ได้ด้วย การส่งออกที่นิยมมี 2 ทางคือ
- ทางเครื่องบิน จะเสียค่าใช้จ่ายมาก
- ทางเรือเดินสมุทร จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเจ้าของไก่จะต้องเอาไก่ไปถึงสถานที่ก่อนเวลาเครื่องบินหรือเรือออก เพื่อทำเอกสารกำกับส่งออกไปปลายทาง จึงต้องมีตารางของพาหนะที่จะส่งออกดูเวลาให้ชัดเจนไก่ส่งออกดูว่าจะยั่งยืน เพราะตอนนี้ทั่วโลกนิยมชนไก่มาก และต้องการไก่ชนจากประเทศไทยอีกมากยิ่งมีพ่อค้าภายใน ภายนอกมาช่วยส่งเสริมก็จะยิ่งทำให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น และคิดว่าคงจะไปได้อีกนาน ขอแต่ผู้ส่งออกอย่าเห็นแก้ได้ เอาไก่ไม่มีคุณภาพผิดสเปคส่งไปให้เขาแล้วกัน เดี๋ยวจะขายได้เพียงครั้งเดียวแบบทุเรียนไทย เอาทุเรียนอ่อนๆ ส่งไป เอากุ้งเอาไก่เนื้อด้อยคุณภาพแถมมีสารตกค้างไปก็ตีคืนมา แล้วไม่ซื้ออีกจะทำให้เสียโอกาส เสียซื่อไก่ไทย สินค้าไทยด้วย
ตลาดไก่ชน อยู่ที่ไหนบ้าง?
- อยู่ที่สนามชนไก่สนามประลอง หรือปล้ำไก่ เราต้องเอาไปปล้ำซ้อม หรือให้เขาเอาไปปล้ำซ้อมหรือชน ถ้าไก่เราดีก็จะขายได้แน่นอน
- อยู่ที่สนามประกวด ถ้ามีไก่งามต้องเอาไปประกวดในสนามประกวด ถ้าไก่เราสวยประกวดติดรางวัลก็จะมีคนตามมาซื้อ
- อยู่ที่แบรนด์เนมสายพันธุ์ เป็นลูกไก่จากเล้าดัง ฟาร์มดัง หรือลูกไก่พ่อ แม่ ดีมีชื่อเสียงคนรู้จะตามมาซื้อ
- อยู่ที่บ้านเราเอง ถ้ามีไก่เก่ง ไก่งาม ติดระดับก็จะมีคนมาซื้อถึงบ้านเอง
- อยู่ที่การโฆษณา ถ้าจะขายไก่ให้ได้กว้างขวาง ก็ต้องมีการโฆษณาตามหนังสือไก่ก็จะมีคนมาซื้อเอง