ไก่ชน ใต้ ถ่ายทอด สด เจ้าเก๊าส์ ตำนานมือปราบพม่า
ไก่ชน ใต้ ถ่ายทอด สด ไก่ชนออนไลน์UBETT88 ” เจ้าเก๊าส์ ” ยอดไก่เหล่าป่าก๋อยขุนศึกของตำนานมือปราบพม่า เป็นไก่เหล่าป่าก๋อยในยุคแรกๆ ที่ตระเวนชนกวาดเดิมพันในเขตภาคเหนือชนะกราวรูคมาถึง 8 ไฟท์ ในช่วง 8 -9 ปีที่ผ่านมาเจ้าเก๊าส์มีสไตล์การชนในแบบฉบับของไก่เหล่าป่าก๋อยอย่างสมบูรณ์แบบ รวดเร็ว เรียกว่า ” ฆ้อนหนัก ” และตีตัวอาชีพในสมัยนั้นเจ้าเก๊าส์เคยชนเดิมพันสูงสุดข้างละ 22,000 ที่สนามชนบ้านไร่ จ.ลำปาง ซึ่งสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเดิมพันที่สูงพอสมควรสถิติการชนของเจ้าเก๊าส์ที่ผ่านมามีดังนี้
ชนะที่ จ. ลำพูน 3 ไฟท์
ชนะที่ จ. เชียงใหม่ 2 ไฟท์
ชนะที่ จ. ลำปาง 3 ไฟท์
ปัจจุบันเจ้าเก๊าส์มีอายุ 10 ปีแล้ว นัยน์ตาบอดมองไม่เห็นทั้งสองข้าง แต่ที่แปลกคือเจ้าเก็าส์ชอบเลี้ยงลูกไก่ จะชอบคุ้ยเขี่ยหาอาหารให้ลูกไก่กินเป็นประจำ และไม่เคยรังแกลูกไก่หรือตัวเมียเลย เจ้าเก๊าส์เป็นพ่อพันธุ์ที่ให้ลูกได้ดีมาก ถ่ายถอดพันธุกรรมและเอกลักษณ์ของสายพันธุ์ไก่เหล่าป่าก๋อยได้อย่างดีเยี่ยม ” เจ้าเก๊าส์ยอดไก่เหล่าป่าก๋อย ” หนึ่งในยอดขุนศึกไก่เหล่าป่าก๋อย ที่ได้แต่งแต้มสีสันของตำนานมือปราบพม่าให้ระบือลือลั่นฉะนั้นไก่เหล่าป่าก๋อยจึงเป็นอีกสุดยอดสายพันธุ์หนึ่งของ ไก่ชนเมืองไทย แทงไก่ชนออนไลน์
เจ้าแก้วฟ้า ขุนฆ้อนพันชั่ง จอมกระกังอุรา ยอดขุนพลมือปราบพม่าเหล่าป่าก๋อย
เจ้าแก้วฟ้าก็เป็นหนึ่งในจำนวนไก่มากมายที่พ่อกำนันแก้วเพาะขึ้นเองกับมือ พ่อของเจ้าแก้วฟ้าเป็นไก่ของคุณครูนิ่ม อีกท่านหนึ่งที่เป็นผู้ที่อนุรักษ์ไก่เหล่าป่าก๋อยอย่างจริงจัง ส่วนแม่ของเจ้าแก้วฟ้า เป็นแม่ไก่ดั้งเดิมของพ่อกำนันแก้วเอง เจ้าแก้วฟ้าเป็นไก่ที่มีชั้นเชิงแพวพราวรวดเร็ว วิ่งมุดมัดทั้งซ้ายขวา ประชิดตัวคู่ต่อสู้ตลอดเวลาเฉลียวฉลาดเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือเจ้าแก้วฟ้านั้นก้าบจัด กัดไม่เลือกที่ และมีลูกตีที่หนักหน่วงรุนแรงมากเป็นพิเศษ พ่อกำนันแก้วเห็นว่ามีแววจะรุ่งโรจน์เป็นไก่เหล่าป่าก๋อยตัวเก่งในอนาคต จึงเลี้ยงดูแลอย่างดี หลังจากนั้นไม่นานช่างมานิตย์ ปลั่งสมบัติ ได้มาขอแบ่งเพื่อจะนำไปเลี้ยงชน พ่อกำนันแก้วจึงได้แบ่งให้ไปเลี้ยง หลังจากที่ช่างมานิตย์นำไปดูแลเลี้ยงดูซ้อมปล้ำจนแข็งแกร่งได้ที่ จึงได้นำตระเวนออกชนตามสนามชนชื่อดังในเขตภาคเหนือรวมแล้วทั้งสิ้น 3 ไฟท์ก่อนที่จะเกิดเหตุเป็นอันให้ต้องหยุดการต่อสู้ลง ไก่ชน ใต้ ถ่ายทอด สด สถิติการชนของเจ้าแก้วฟ้านั้น ชนะมาทั้งสิ้น 3 ไฟท์ดังนี้
ไฟท์ที่หนึ่ง ชนชนะที่สนามชนจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ไฟท์ที่สอง ชนชนะที่สนามชนสันป่าค่า จังหวัดเชียงใหม่
ไฟท์ที่สาม ชนชนะที่สนามชนของเสี่ยเตี๋ยบ้านโฮ่ง
หลังจากชนะในไฟท์สุดท้ายที่สนามชนของเสี่ยเตี้ย บ้านโฮงแล้ว ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงทำเนื้อทำตัวเพื่อออกชนอีกครั้ง ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเจ้าแก้วฟ้าหลุดจากเล้าออกมาเลาะกับไก่ตัวอื่น จนเป็นเหตุให้ถึงกับต้องตาบอดไม่สามารถเลี้ยงชนได้อีก

เจ้าแดงน้อย ขุนศึกเลือดบ้า
เจ้าแดงน้อยเป็นไก่เพาะเองของทางซุ้ม “ก้องกมล ” เป็นไก่สายพันธุ์เหล่าป่าก๋อยแท้มีน้ำหนักตัว 2.4 กิโลกรัม หน้าตาสวยได้รูป แววตาเป็นประกายสีเดียวกับสีสร้อย บ่งบอกว่าเป็นไก่ฉลาด ปากเป็นสีขาวอมเหลือง สีเดียวกับสีแข้ง หัวดอก หางขาวมีกระขาวอยู่ตามตัวบ้าง ที่หัวปีก และตามลำตัว รูปร่างดี สมส่วน กระดูกดี แข้งค้านหน้าของเจ้าแดงน้อยเป็นไก่แข้งสองแถวปลอด เหมือนกันทั้งสองข้าง เกล็ดแข้งสวยเรียงเป็นระเบียบ แข้งหลังกลมนูนสวย เกล็ดท้องแข้งสวยเรียงเป็นระเบียบ เกล็ดแต่ละเกล็ดชัดร่องเกล็ดลึกเห็นอย่างชัดเจนและเรียงเป็นระเบียบ ซึ่งเป็นเกล็ดแข้งที่ตีไก่เจ็บปวด
เจ้าแดงน้อยในช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงที่พร้อมสมบูรณ์เต็มที่อายุกำลังได้ที่ เป็นไก่ที่กำลังสดมีอายุเพียงขวบพอดิบพอดี เจ้าแดงน้อยผ่านศึกในสนามชนระดับมาตรฐานชื่อคังของทางภาคเหนือมาแล้ว 2 ไฟท์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าแดงน้อยสามารถกวาดชัยชนะมาได้อย่างงดงามทั้งสองไฟท์ ด้วยความปราดเปรียวรวดเร็ว เฉลียวฉลาดด้วยเชิงชนในสไตล์ป่าก๋อยขนานแท้วิ่งมุด วิ่งมัด ประชิดตัวคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ประเภทถอยหลังหกล้ม ตามแบบฉบับของไก่เหล่าป่าก๋อย และมีลูกตีที่เฉียบขาด แม่นยำและหนักหน่วงรุนแรง ตีจริง ตีแผลเดียวและมีความขยันและดุดันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากคู่ต่อสู้เสียหลักพลาดท่า เจ้าแดงน้อยจะเข้าถล่มคู่ต่อสู้ชนิดที่ไม่มีคำว่าปราณี ทำให้ไม่มีคู่ต่อสู้ตัวใดสามารถต้านทานความเก่งกาจในฝีไม้ลายมือของเจ้าแดงน้อยได้แม้แต่ตัวเดียว ถึงแม้จะเป็นเพียงในขณะซ้อมก็ตามเจ้าแดงน้อยก็ถล่มคู่ต่อสู้เสียหมอบราบคาบม้วนเสื่อกลับบ้านเก่าไปเสียทุกตัว
เจ้าเลาปากขาว จอมเทคนิค ลีลายอดมือปราบพม่า
ตำนานของไก่ชนสายพันธุ์ไทยนาม “ไก่เหล่าป้านานนับสิบปีมาแล้ว ไก่ซนเหล่าป่าก๋อยในสมัยแรกเริ่มตระเวนชนสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือ ด้วยเอกลักษณ์ประจำสายพันที่โดดเด่น ชั้นเชิงสูง รวดเรีว เฉลียวฉลาด วิ่งประชิดตัวต่อสู้ตลอดเวลา ทำให้ไก่เหล่าป่าก๋อยนั้นเหมาะสมจริงๆ กับฉายาที่ว่าเป็น “มือปราบพม่า ” สายพันธุ์ของไก่เหล่าป่าก๋อยเป็นไก่สายพันธุ์ไทย สายพันธุ์หนึ่งที่สายเลือดค่อนข้างนิ่ง ทำให้ลูกหลานไก่ชนเหล่าป้าก๋อยยังคงสืบทอดสายเลือดและความโดดเด่นดังกล่าวต่อมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะกี่รุ่นต่อกี่รุ่นลูกหลานไก่ชนเหล่าป่าก๋อยก็ยังคงความเป็นมือปราบพม่าไว้ได้อย่างครบเครื่อง

เส้นทางสู่ผู้พิชิตของ เจ้าเขียว สิงห์เหนือ ต้นตำรับไก่ชนเหล่าป่าก๋อย
วันที่ 19 พฤษภาคม ณ สนามกีฬาชนไก่เวลแห่งเมืองนครปฐม เป็นวันที่วงการไก่ชนไทยได้พิสูจน์ความเป็นเลิศของลีลาไก่ชนระหว่างไก่ชนสายพันธุ์ไทยพม่าคู่เอกในวันนั้นเป็นการต่อสู้ระหว่าง ไอ้เขียวสิงห์เหนือ คาราบาว ไก่ชนตัวเอกในค่ายก้องกมล ค่ายใหญ่แห่งเมืองลำพูนของทนายก็องลงมาท้าพิสูจน์ความโหดกับแชมป์เขต 7 จ้าวถิ่นแห่งนครปฐมครั้งนี้จากการประสานงานของพี่แอ็ด คาราบาว พี่แดง ลำพูนและทีมงาน ชัยชนะและรางวัล 330,000 บาท เป็นของ ไอ้เขียวสิงห์เหนือ คาราบาว อย่างน่าประทับใจหลายท่านตั้งคำถาม เจ้าเขียวสิงห์เหนือ คาราบาวแน่มาจากไหน ? ข้าพเจ้าจะพาท่านไปพบกับประวัติอันน่าสนใจของไก่ชนสายพันธุ์แท้ตัวนี้ ด้วยแรงบันดาลใจและกำลังใจที่ได้จากหัวหน้าใหญ่แห่งค่าย ก้องกมล โดย ทนายก็อง และทีมงานความคิดนี้ได้จุดประกายขึ้นเมื่อ พี่ท่านช่างมานิตย์ แห่งค่ายแม่โจ้ ได้แนะนำให้ พี่แอ็ด คาราบาว มาเยี่ยมบ้านและค่าย แล้วถามถึงความเป็นมาของไก่เหล่าป่าก๋อย หรือไก่ก้าบหลัง เหล่าป๋าก๋อย เป็นชื่อบ้านหมู่ที่ 1 ต. น้ำดิบ ห่างจากอำเภอป่าซาง จ. ลำพูน ไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตรข้าพเจ้าผู้เล่าได้เริ่มทำงานที่นี่เมื่อวันที่ 15 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2523 รวมแล้ว 20 ปี วิถีชีวิตของชาวบ้านแห่งนี้ทำสวนลำไยเพาะเลี้ยงไก่ชน ณ หมูบ้านนี้เองเป็นถิ่นกำเนิดตำนาน ไก่ก้าบหลัง ที่บ้านของพ่อหลวงนาย (พ่อหลวงเทวราช หยุมปัญญาผู้ใหญ่บ้านเหล่าป่าก๋อยคนปัจจุบัน) ท่านเลี้ยงไก่ลาย (ไก่สีด่าง)เป็นไก่พันธุ์ไทยแท้ น้ำหนักตัว 2.5 กิโลกรัม มีลีลาการตีที่ดุดัน เข้าปีกเร็ว ตีตัวเจ็บ และที่พิเศษ คือ ก้าบหลัง (จิกหลังตีจนขนหลุดติดปากออกมา)ปีแรกนี้เจ้าลายเริ่มสร้างชื่อด้วยการออกจิกหลังตีคู่ต่อสู้ตามสนามกีฬาชนไกใน ลำพูน เชียงใหม่ ด้วย สถิติ ชนะรวด 5ไฟท์ หลังจากนั้นเจ้าลายเกิดเท้าบวม พ่อหลวงนวยจึงให้พี่เสริฐเลา ลูกบ้านของท่านนำไปรักษาและทำพ่อพันธุ์ เมื่อเจ้าเขียวอายุได้ 1 ขวบ ทนายก้องร่วมกับพ่อเลี้ยงโจทย์ได้ซื้อมาอยู่ ค่ายก้องกมล ไฟท์แรก ไปตีชนะพม่า ณ ดินแดนเหนือสุดยอดในสยาม (สนามชนไก่แม่สาย จ. เชียงราย) คว้ารางวัล 7,700 บาท ซึ่งเป็นไฟท์เดียวในปีแรก ปีที่ 2 เจ้าเขียวออกล่าไฟท์ที่ 2 ชนะพม่าแห่งเชียงราย ณ สนามชนไก่ จ. เชียงราย คว้าเดิมพัน 110,000 บาท ด้วยฟอร์มสุดโหดตีพม่าตาแตก 2 ข้างถูกจับแพ้ไปในอันที่ 2 เท่านั้นเอง ทำให้เป็นที่เกรงกลัวกันในหมู่เซียนไก่ในภาคเหนือ เจ้าเขียวสิงห์เหนือคาราบาว หาคู่ตีด้วยไม่มีขณะนั้นพี่แดงยักษ์และทีมงานได้ประสานงานกับทางสนามชนไก่เวล นครปฐมประกบคู่ให้พิสูจน์ความเก่งกาจกับแชมป์เขต 7 ชิงเดิมพัน330,000 บาท ทนายก้องตอบตกลงทันทีที่โดยมีพี่แอ็ด คาราบาวและทีมงานเป็นผู้ให้กำลังใจ ครั้งนี้เป็นไฟท์ใหญ่หยุดโลก 19 พฤษภาคม 2543 คือวันท้าดวลแข้งภายใต้การลุ้นอย่างระทึกใจของทุกฝ่ายว่าสิงห์เหนือจะได้ลงมาตีหรือไม่เพราะอาการเท้าบวม ทุกคนโล่งอกเมื่อถึงวันนัดสิงห์เหนือเดินทางสู่สนามได้ตามนัดด้วยสภาพที่ต้องพันพลาสเตอร์ที่ข้อเท้าอยู่ มาด้วยเลือดนักสู้ของไก่และเจ้าของ ท่ามกลางสายตาของผู้ชมที่แน่นขนัดในสนามและนั่งดูถ่ายทอดทางทีวีวงจรปิดอีกหลายจุด นาทีระทึกที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ไก่ทั้งคู่ออกอาวุธเข้าใส่กันอย่างดุเดือดตามสไตล์ไอ้เขียวสิงห์เหนือลุยซ้ำที่ซอกคอ ขณะที่แชมป์ 7 ออกลีลาถอยตีหัว ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างสมศักดิ์ตรีตลอด 5 ยก พอมาถึงยกที่ 6 ชัยชนะก็เป็นของเจ้าเขียวสิงห์เหนือคาราบาว อย่างเด็ดขาดด้วยลูกจุ่มหน้าดอและหัวปีกตีรับรางวัลเสร็จ ทีมงานนำไก่เดินทางกลับค่ายก้องกมลโดยสวัสดิภาพ จากวันนั้นมาทุกคนลุ้นกันอีกอย่างใจจดจ่อและเอาใจช่วยให้ เจ้าเขียวยืนและเดินได้เหมือนเดิมให้หายจากอาการข้อเท้บวมภายใต้การดูแลอย่างดีของทนายก้องและทีมงานเส้นทางของเจ้าเชียวสิงห์เหนือคาราบาวยังอีกยาวไกล เพราะขณะนี้ทายาทของมันเริ่มส่อแววความเก่งกาจออกมาให้เห็นหลายตัว
ไก่ชนเหล่าปาก๋อยในทัศนะของปีศาจสุรา
เซียนไก่ชนหรือคนรักไก่ชนต่างๆ ซาบซึ้งกันดีว่า ลีลาของไก่นั้นมันเป็นตัวกำหนดความมีชัยในกีฬาชนไก่ ไก่ของใครมีลีลาที่ดีกว่า หรือมีลีลาที่เป็นต่อชนิดเข้าทางมวย โอกาสพ่ายแพ้นั้นเห็นจะยากเช่นไก่ไทยเชิงกอดชนกับไก่พม่าเชิงถอด ย่อมต้องพ่ายแพ้แก่ไก่พม่าแน่นอน พ่ายเร็วหรือพ่ายช้าก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและความ แข็งแรง (น้ำเลี้ยง) ของไก่นั้นๆ ด้วย ถ้าเป็นไก่เกรด A ชนกับ เกรด A ก็เป็นไปตามสูตรนี้ แต่ถ้าเกรด A ชนกับเกรด B ก็ต้องพิจารณาเอาเองให้รอบคอบอย่างเพิ่งปักใจมันว่านอนมาเด็ดขาด วงการไก่เป็นเช่นนี้แล มันถึงสนุก ได้รสขาดตรงที่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เป็นต่อสิบหนึ่งยังนั่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน โป้งเดียวเข้าตาเข้าบ่อเลือด บอกได้คำเดียวว่า ” บทเรียนราคาแพง “